Monday, February 6, 2017

เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ทุกที่ ทุกเวลา

ประสบการณ์การฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเอง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เริ่มจากศูนย์ ผมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษครั้งแรกตอนอายุ 11 ปี ตอนนั้นอยู่ ป.5 ซึ่งเด็กต่างจังหวัดรุ่น ๆ ผม ก็จะได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษครั้งแรกในช่วงวัยนั้น หนังสือเล่มแรกคือ English is fun (555 ความจำยังดี) แล้วก็เรียนระดับมัธยม จนจบมหาวิทยาลัย


ผลคือ 12 ปี ผ่านไป ผมไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นเรื่องเป็นราวเลย แม้กระทั่งการบอกทางยังยากเลย และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมพลาดงานดีๆ ไปหลายงาน

เมื่อเจ็ดปีที่แล้วมีรุ่นพี่ท่านหนึ่งซึ่งกำลังเรียนต่อระดับปริญญาเอกอยู่ เดินมาถามว่าสนใจอยากได้บทเรียนภาษาอังกฤษไปเรียนด้วยตัวเองไหม ผมตอบไปทันทีว่าอยากได้ครับ ขอบคุณครับ บทเรียนที่พี่แกเอามาให้คือ English for you ของ BBC ซึ่งผมเคยได้ยินตอนเป็นเด็ก ๆ สโลแกน "ให้คุณพูดคล่องเหมือนเจ้าของภาษา" นั่นคือสิ่งที่เคยได้ยิน แต่ตอนที่ได้มาตอนนั้นยังไม่มีแรงกระตุ้นให้ฝึกสักเท่าไหร่ เพราะยังไม่มีเป้าหมายว่าจะฝึกไปเพื่ออะไร เพราะงานที่ทำก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ จนกระทั่งแต่งงาน มีลูก ก็เริ่มมีเป้าหมายอยากให้ลูกพูดสองภาษา และช่วงนั้นกำลังเรียนต่อโท ต้องอ่านบทความภาษาอังกฤษจำนวนมาก และอยากไป conference ภาษาอังกฤษ อีกอย่าง ช่วงนั้นที่ทำงานส่งไปทำ Workshop ที่จัดโดยฝรั่ง ทีนี้ไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่เริ่มต้นฝึกคงแย่แน่

เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

ก็เอาบทเรียนที่พี่คนดังกล่าวมอบให้มาอ่าน มาฟัง และค้นหาวิธีฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเองในอินเตอร์เน็ต ซึ่งตอนนั้นมีไอเดียในหัวคือ อยากได้สื่อที่ฝึกได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียตังค์ ไม่ต้องมี partner แล้วก็ได้พบหลายวิธี หลายสื่อ เช่น effortless english ของ AJ Hoge  รายการ OK I get it โดยศูนย์พัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งดำเนินรายการโดยครูเคท แต่ตอนนี้เว็บไซต์ดังกล่าวปิดไปแล้ว และผมก็ฝึกตามแนวทางที่กูรูหลายท่านบอกไว้คือ ฟังมาก ๆ ฟังบ่อย ๆ เลียนแบบพูดให้เหมือนต้นแบบ(ไม่ใช่แค่พูดตามเหมือนตอนอยู่ห้องเรียน) ผลที่ได้คือ ผมฟังออกมากขึ้น สำเนียงในการพูดดีขึ้น แต่...ก็ยังติดปัญหาคือ ไม่มีโอกาสได้ใช้งานก็เลยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เรามีดีพอหรือยัง

ผมก็เลยคิดว่าฝึกคนเดียวไม่ได้ลงสนามใช้จริงคงไม่เวิร์กแน่ๆ จึงหาสนามซ้อมโดยลองหาในกูเกิ้ลว่า มีเว็บไหนที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนภาษาบ้าง ผมพบว่ามีหลายเว็บไซต์มากที่เป็น Language exchange แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ www.sharedtalk.com  แต่ปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว น่าเสียดายมาก เพราะนั่นเป็นที่ที่ทำให้ผมพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษอย่างก้าวกระโดด ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุยจริง แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้คนจริง

พอผมฝึกในโลกออนไลน์จนเก่งขึ้นในระดับหนึ่ง ผมก็มีโอกาสได้ใช้งานจริง ๆ ในรู้จักกับเพื่อนชาวต่างชาติจากการทำงานร่วมกัน และเพื่อนเหล่านั้นปัจจุบันยังติดต่อกันอยู่

พอภาษาอังกฤษเราดีขึ้น ผลคือ โอกาสที่เพิ่มมากขึ้น ได้ไปเข้าร่วมสัมมนาที่เป็นภาษาอังกฤษ ฟังสื่อที่มีประโยชน์จาก youtube และแหล่งความรู้ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ได้รับมอบหมายจากที่ทำงานให้ติดต่อกับชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อ ได้ฝึกพูดกับลูกเป็นภาษาอังฤษ มีเพื่อนมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก

แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ผมไม่ได้ทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก ผลที่ได้อาจจะไม่ได้เลิศหรูมากแค่พอใช้งานได้ แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรมามากพอที่จะแบ่งปันได้ เป้าหมายต่อไปหลังจากนี้คือ ฝึกฝนต่อไป แบ่งปันประสบการณ์ให้คนที่กำลังฝึกอยู่ ฝึกการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ฝึกการเขียนถ่ายทอดเป็นภาษาอังกฤษ และสร้างรายได้จากการใช้ภาษาอังกฤษ

สรุปจากประสบการณ์
1) ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะฝึกภาษาไปเพื่ออะไร ซึ่งนี่แหละที่สร้างพลังอันไม่จำกัดให้เราทุ่มเทฝึกฝนได้อย่างต่อเนื่องจนสำเร็จ

2) มี Mind set (วิธีคิด) ที่ถูกต้องในการฝึกภาษาอังกฤษ ลบความเชื่อที่ผิด ๆ ทิ้งไป

3) มีวิธีการฝึกที่ดี ฟังให้มาก อ่านให้มาก ฝึก ฝึก ฝึก ซ้อม ซ้อม ซ้อม

4) เลือกฝึกในระดับที่เรารับได้ ไม่ยากหรือง่ายเกินไป เพราะจะทำให้เราขาดแรงกระตุ้นหรือเบื่อในที่สุด

5) มีความต่อเนื่องในการฝึก ปริมาณไม่สำคัญเท่ากับความสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น ฝึกวันละ 30 นาที ทุกวัน ได้ผลดีกว่า ฝึกหนัก 8 ชั่วโมงต่อวันแต่แค่สัปดาห์ละหนึ่งวัน

6) หาสนามซ้อม ใช้งานจริง อย่าอายที่จะพูด อย่าอายที่จะสื่อสาร การฝึกภาษาก็เหมือนการซ้อมกีฬา การซ้อมอย่างต่อเนื่องจะทำให้เราเก่งขึ้น แต่การได้ลงสนามจริงจะทำให้เราเก่งขึ้นมาก ตื่นเต้นน้อยลง ประหม่าน้อยลง

7) ตั้งเป้าหมายที่กระตุ้นให้เราเติบโตขึ้นอีกนิด เช่น วันนี้พูดแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษได้ พรุ่งนี้จะต้องแนะนำคนในครอบครัวของเราเป็นภาษาอังกฤษให้ได้ เป็นต้น
Filed Under :

0 comments for "เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ทุกที่ ทุกเวลา"

Post a Comment

background